Privacy Notice ลูกค้า และผู้รับบริการ
บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัท”) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้รับบริการ (“ท่าน”) ที่ได้มอบให้แก่บริษัทด้วยความไว้วางใจ ได้มอบให้แก่บริษัทด้วยความไว้วางใจ บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อชี้แจงให้ท่านทราบวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยมีเงื่อนไขและรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ประเภทและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคลบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านโดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยอาจให้ท่านกรอกข้อมูลลงในเอกสารที่บริษัทจัดเตรียมไว้ หรือกรอกข้อมูลลงในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทางบริษัทได้กำหนด และ/หรือวิธีอื่นใด อย่างไรก็ตาม ด้วยลักษณะของกิจกรรม บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลของท่านบางประการ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่บริษัทได้รับจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากท่านโดยตรง ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บจากท่าน อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูล ดังนี้
1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
- รายละเอียดส่วนบุคคล เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล นามแฝง เพศ วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ รูปถ่าย ลายมือชื่อ อาชีพ ข้อมูลรายละเอียดสถานะ เลขรหัสประจำตัว นักเรียน นักศึกษา
- ข้อมูลตามนามบัตร เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล อาชีพ ตำแหน่งงาน สถานที่ทำงาน รายละเอียดเกี่ยวกับนายจ้าง
- ข้อมูลเอกสารที่ออกให้โดยหน่วยงานราชการ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน และด้านหลังบัตร ใบเปลี่ยนชื่อ สกุล หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ทะเบียนบ้าน รวมถึงเอกสารอื่นใดที่ใช้ในการระบุตัวตน และการยืนยันตัวตน
- รายละเอียดทางการเงิน เช่น ข้อมูลการซื้อขาย ข้อมูลการชำระเงิน ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรม ข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลบัตรเดบิต (รวมถึง ชื่อ เบอร์บัตร ที่อยู่ และวันหมดอายุ) หมายเลขบัญชี ประเภทบัญชี
- ข้อมูลบัญชีโซเชียลมีเดีย (Social Media Account) เช่น รายชื่อบัญชีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย โปรไฟล์เฟสบุ๊ก ไลน์ไอดี ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม ยูทูบ เป็นต้น
- ข้อมูลสมาชิก ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านใช้อยู่ช่องทาง และวิธีการที่ท่านปฏิสัมพันธ์กับบริษัท สถานะความเป็นลูกค้าของ ข้อมูลประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู การตอบสนองต่อการโฆษณาของบริษัท รวมถึง เนื้อหาที่ท่านเข้าชม ลิงค์ที่กดเข้าชม ฟีเจอร์ (Features) ที่ท่านใช้ และข้อมูลการขอใช้บริการ
- ข้อมูลการวิจัยตลาด แบบสอบถาม ข้อเสนอแนะ และข้อมูลการสำรวจความคิดเห็น รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้สิทธิ และการร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ
- ข้อมูลการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริง (Due Diligence) เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำความรู้จักลูกค้า (KYC) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) การตรวจ สอบการฟอกเงินและต่อต้านการก่อการร้าย
- ข้อมูลการโต้ตอบ และการสื่อสาร ในกรณีที่ท่านติดต่อบริษัท รวมถึงข้อมูลที่ท่านเลือกจะแบ่งปันและเปิดดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน เครื่องมือ แบบสอบถาม และบริการต่าง ๆ ของบริษัท ไม่ว่าจะในรูปแบบ หรือวิธีใด ๆ ก็ตาม ซึ่งอาจเป็นภาพ หรือเสียงโดยไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)
- ข้อมูลสถานะการเป็นตัวแทนธุรกิจ ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ผู้ถือหุ้น หรือผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ผู้ปฏิบัติงาน ตัวแทน พนักงาน และลูกจ้างของลูกค้าหรือผู้รับบริการ
- ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ความสัมพันธ์กับท่าน อาชีพ สถานะการเป็นผู้บริหารระดับสูง ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลผู้ได้รับมอบอำนาจของนิติบุคคล กรรมการ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าของหรือเจ้าของร่วม และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นของบุคคลใด ๆ ซึ่งท่านรับรองต่อบริษัทว่า ท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวให้เปิดเผยข้อมูลแก่บริษัท รวมถึงยินยอมให้บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้น เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่บริษัท ได้แจ้งให้ท่านทราบ
1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
บริษัทไม่มีความประสงค์จะจัดเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งจัดเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลหมู่โลหิต หรือข้อมูลศาสนา ถึงแม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อบริษัทก็ตาม ทั้งนี้ หากท่านได้ทำการส่งมอบข้อมูลใด ๆ ซึ่งปรากฏข้อมูลที่มีลักษณะเช่นว่านี้ให้แก่บริษัทไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบข้อมูลในลักษณะเป็นเอกสาร หรือสื่ออื่นใด ท่านจะต้องปกปิดข้อมูลอ่อนไหวเหล่านี้ ด้วยตัวท่านเอง หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลด้วยตัวท่านเอง บริษัทถือว่าท่านได้อนุญาตโดยชัดแจ้งให้บริษัททำการปกปิดข้อมูลเหล่านี้ให้แก่ท่าน และให้ถือว่าข้อมูลที่ท่านส่งมอบมานี้ซึ่งบริษัทได้จัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวให้แก่ท่านแล้วเป็นเอกสารที่สมบูรณ์ ใช้บังคับได้ตามกฎหมายทุกประการ และให้บริษัทสามารถนำไปประมวลผลได้ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้หากเป็นกรณีที่บริษัทไม่สามารถจัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวแก่ท่านได้เนื่องด้วยปัญหาเชิงเทคนิค หรือปัญหาอื่นใด บริษัทจะทำการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากมีกิจกรรมใดในอนาคตที่อาจมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลสุขภาพของท่าน บริษัทจะได้ทำการขอความยินยอมของท่านไว้โดยชัดแจ้ง โดยทำเป็นเอกสารขอความยินยอมก่อนการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวเหล่านั้นเสมอ ทั้งนี้ การจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อการให้บริการและอำนวยความสะดวกอย่างดีที่สุดแก่ท่านเท่านั้น
1.3 ในกรณีที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลที่สาม ลูกค้าของบริษัท และ/หรือบุคคลอื่นใดที่เป็นผู้ควบคุม หรือประมวลผลข้อมูล โดยบริษัทเชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลเหล่านั้น เป็นผู้มีสิทธิประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และมีสิทธิเปิดเผยให้แก่บริษัทได้ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการได้รับข้อมูลมาจากช่องทาง ดังนี้
- สื่อสังคมออนไลน์ (social media) แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลที่สาม แหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น บริษัทในเครือ พันธมิตรทางธุรกิจ
- เจ้าหน้าที่และหน่วยงานผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- บุคคลที่สามอื่น ๆ เช่น บริษัทที่ท่านสังกัด ผู้แทนของท่าน นายจ้าง ผู้สนับสนุน และบุคคลที่สามที่มีบทบาทในการให้บริการแก่ท่าน ผู้จัดจำหน่าย ตัวแทนที่เป็นบุคคลภายนอก รวมถึงบุคคลใด ๆ ที่ดำเนินการในนามของบุคคลเหล่านั้น
บริษัทรวบรวมข้อมูลของท่านที่ได้สมัครใจให้แก่บริษัท เช่น ข้อมูลการติดต่อ และ/หรือ การลงทะเบียนบนเว็บไซต์ ซึ่งท่านอาจถูกขอให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเว็บไซต์ของบริษัทผ่านแบบสำรวจ นอกจากนี้ท่านอาจได้รับข้อความเป็นระยะจากบริษัทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการใหม่ หรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น หากท่านไม่ต้องการรับอีเมลหรือจดหมายอื่น ๆ จากบริษัทโปรดอัปเดตบริการสมัครสมาชิกหรือคลิกลิงก์ "ยกเลิกการสมัคร" ในจดหมายโต้ตอบทางอีเมลที่ได้รับจากบริษัท
ข้อ 2. วัตถุประสงค์ และฐานในการประมวลผลบริษัทอาจอาศัยหรืออ้าง (1) ฐานความยินยอม เพื่อประมวลผลข้อมูลของท่าน (2) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญาหรือการเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (3) ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (4) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก (5) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (6) ฐานประโยชน์สาธารณะสำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด แล้วแต่กรณี ซึ่งในประกาศฉบับนี้บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้
ลำดับ | วัตถุประสงค์ | ฐานทางกฎหมาย |
1 | เพื่อการจัดหาผลิตภัณฑ์ และบริการให้แก่ท่าน (รวมถึง ผลิตภัณฑ์และบริการของบุคคลภายนอกซึ่งท่านอาจสนใจ) เป็นครั้งคราว ซึ่งบริษัทอาจส่งจดหมายข่าว ที่มีข่าวสารเกี่ยวกับบริษัท รวมถึง ข้อเสนอพิเศษ ข้อมูลการตลาดทางตรงถึงท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการที่เกี่ยวข้อง หรือผลิตภัณฑ์ และบริการอื่นๆ ที่ได้รับจากบริษัท บริษัทในเครือ คู่ค้า และพันธมิตรของบริษัท ผ่านทางอีเมล SMS แอปพลิเคชัน Social Media โทรศัพท์ และอีเมล หรือช่องท่านอื่นใดที่ท่านอนุญาต | ความยินยอม |
2 | เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ ทั้งในและต่างประเทศที่ใช้บังคับ และเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจรวมถึงการดำเนินการที่เกี่ยวกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือการดำเนินคดี | การปฏิบัติตามกฎหมาย |
3 | เพื่อดำเนินการประมวลผลตามคำขอ เสนอราคา การอนุมัติ การเข้าทำสัญญา การใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ การตรวจสอบและยืนยันตัวตน ในขั้นตอนการสมัครสมาชิก การจัดเตรียม และการรับ ส่งมอบ ติดตาม จัดส่ง การเปลี่ยน ผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงการจัดการความสัมพันธ์ตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท การจัดการในเรื่องต่าง ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการแล้วจะกระทบต่อการดำเนินการ หรือการให้บริการของบริษัท หรือจะไม่สามารถให้บริการได้อย่างเป็นธรรมและต่อเนื่อง | การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
4 | เพื่อดำเนินการตามคำสั่ง คำร้องขอ หรือข้อเสนอแนะของท่าน รวมถึงเพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและท่าน เช่น ดูแลลูกค้า ประเมินความพึงพอใจ การให้คำปรึกษา การให้คำชี้แจง การตอบข้อสงสัย จัดทำรายงานต่าง ๆ หรือดำเนินการแก้ไขตรวจสอบข้อร้องเรียนที่ได้รับจากท่าน หรือจากผู้อื่น | การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
5 | เพื่อดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ พัฒนา ดูแล ปรับปรุง บันทึก สถานะลูกค้า และการเข้าใช้บริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ออนไลน์อื่น ๆ ของบริษัท เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาระหว่างบริษัทกับท่าน | การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
6 | เพื่อแจ้งเตือนการใช้บริการ เมื่อใกล้สิ้นสุดระยะเวลาตามสัญญา การดำเนินการเกี่ยวกับการสร้าง และรักษาบัญชีผู้ใช้ของท่าน รวมถึง การประมวลผล การตรวจสอบการใช้บริการ และการปิดบัญชีผู้ใช้ของท่าน | การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
7 | เพื่อดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จของธุรกรรม การหักบัญชี รายการบัญชี และตรวจสอบความถูกต้องของเลขที่บัญชี และหมายเลขบัตรเครดิต หรือเดบิต และธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน การคืนเงิน การออกใบสำคัญรับเงินใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ การชำระหนี้ การเรียกเก็บเงิน และการดำเนินการอื่นใดเกี่ยวกับบัญชีของท่านในฐานะลูกค้าของบริษัท | การปฏิบัติตามสัญญา |
8 | เพื่อให้บริการบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์หลังการส่งมอบแก่ท่าน การดำเนินการตรวจสอบ ปรับปรุง และจัดการเรื่องทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ท่าน และเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาระหว่างบริษัทกับท่าน | การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
9 | เพื่อการบริหารกิจการของบริษัท ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และตรวจสอบการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้าย ประพฤติโดยมิชอบ หรือการก่ออาชญากรรมอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือผู้ที่อาจเป็นลูกค้าของบริษัท | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
10 | เพื่อการเรียกเก็บเงิน หรือหนี้ที่ท่านค้างชำระอยู่กับบริษัท การเข้าทำธุรกรรม การดำเนินการชำระเงิน และ/หรือรับชำระเงินจัดการกับข้อเรียกร้องและข้อพิพาท รวมถึงการดำเนินการแก้ไขข้อพิพาท การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การใช้สิทธิ หรือการโต้แย้งข้อเรียกร้องทางกฎหมาย การดำเนินคดีต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย | การปฏิบัติตามสัญญา/เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
11 | เพื่อพัฒนา ทดสอบ ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ รวมทั้งระบบงานต่าง ๆ ของบริษัท เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ และ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการตอบสนองความต้องการของท่าน | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
12 | เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การเฝ้าติดตามข้อมูลการใช้เครือข่าย (network activity logs) การระบุเหตุการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย (security incidents) การดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล และการป้องกันอื่นใดต่อการกระทำที่ประสงค์ร้าย หลอกลวง ฉ้อฉล หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
13 | เพื่อบริหารโครงสร้างบริษัท การจัดเก็บข้อมูลเพื่อจัดทำรายงาน การควบคุมภายใน การดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามนโยบายและกระบวนการของบริษัท ซึ่งรวมถึงการดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมความเสี่ยง ความปลอดภัย การตรวจสอบบัญชี การเงินและการบัญชี ระบบและการดำเนินการเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจของบริษัท | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
14 | เพื่อการวิจัย วางแผน ประเมิน การวิเคราะห์ข้อมูล สถิติ เกี่ยวกับข้อจำกัดและพฤติกรรมการใช้บริการ การทำแบบสอบถาม การสำรวจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัท | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
15 | เพื่อใช้ในการขาย การโอน การควบกิจการ การฟื้นฟูกิจการ หรือเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สามรายใดรายหนึ่งหรือหลายรายซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมนั้น ๆ | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
16 | เพื่อการเก็บรักษา และแก้ไขปรับปรุงรายชื่อ และสมุดรายนามของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน และจัดเก็บสัญญา และเอกสารที่เกี่ยวข้องในสารบบของบริษัท | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
17 | เพื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทางธุรกิจอันสมควร เช่น การจัดการ การอบรม การตรวจสอบ การรายงาน การควบคุม หรือบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์และวางแผนสถิติและแนวโน้ม หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงกัน จัดให้มีการควบคุมทางธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้และทำให้บริษัทสามารถระบุและแก้ไขปัญหาในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT systems) ของบริษัท เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัย การพัฒนา จัดให้มี ดำเนินการ ทดสอบ และบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT systems) ของบริษัท | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
18 | เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับ และ/หรือส่งข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของท่าน ไปยัง คู่ค้า หรือ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท เมื่อท่านมีการใช้บริการของบริษัทในเครือ คู่ค้า หรือ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
19 | เพื่อใช้ในการออกใบกำกับภาษี โดยเป็นไปตามประมวลรัษฎากรและกฎหมายหรือประกาศอื่นใดที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรา 86/4 ของประมวลรัษฎากร ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 199) เป็นต้น | การปฏิบัติตามสัญญา/การปฏิบัติตามกฎหมาย |
20 | เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการออกใบกำกับภาษีในครั้งต่อไปที่ท่านมาใช้บริการ | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
ข้อ 3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ท่านให้ไว้กับบริษัทเท่านั้น โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
- บริษัทย่อย บริษัทในเครือ พันธมิตรทางธุรกิจ นายหน้า ผู้จัดจำหน่าย ธุรกิจร่วม (co-brand partners) คู่สัญญา และ/หรือบุคคลอื่นใด ที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ที่ปรึกษาของบริษัท ผู้สอบบัญชี และบุคคลภายนอกอื่น ๆ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างสมเหตุสมผลที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของท่านที่ต้องการใช้บริการของบริษัท
- หน่วยงานของรัฐ และ/หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นไปตามหน่วยงานของรัฐเช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร และเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบุคคลใด ๆ ตามที่กฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนด เปิดเผยตามคำร้องขอของหน่วยงานหรือองค์กรในต่างประเทศที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานกำกับของประเทศไทยเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดตามกฎหมาย หรือในกรณีเฉพาะอื่น ๆ
- หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พนักงานสอบสวน อัยการ เป็นต้น และอาจมีการเปิดเผยให้หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีของบริษัทด้วย
- บุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีการขายสิทธิเรียกร้อง และ/หรือ ทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร หรือการควบรวมกิจการของบริษัท ซึ่งบริษัทอาจต้องมีการโอนสิทธิไปยังกิจการดังกล่าว รวมถึงบุคคลต่าง ๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว
- ธนาคาร และสถาบันการเงินอื่น ๆ ผู้ให้หลักประกัน รวมทั้งบุคคลภายนอกที่บริษัทได้รับความยินยอมจากท่านในการทำธุรกรรม บริษัทประกันภัย และบุคคลอื่นใดที่ให้ผลประโยชน์ หรือให้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของท่าน
- ทนายความ ตัวแทนที่ทำหน้าที่ทวงถามหนี้ บริษัทข้อมูลเครดิต หน่วยงานป้องกันการทุจริต หน่วยงาน หรือบุคคลใด ๆ ที่บริษัทถูกกำหนด หรือได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย กฎระเบียบ หรือคำสั่งรวมถึง ผู้ตรวจสอบ ที่ปรึกษากฎหมาย และบุคคลอื่นใดที่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูล เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้
- บุคคลภายนอกที่ให้บริการต่าง ๆ แก่บริษัท ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสารลูกค้า เช่น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ผู้ให้บริการการสำรวจความพึงพอใจ ผู้ให้บริการการพิมพ์ การวิเคราะห์และการเปรียบเทียบทางการตลาด บริษัทที่จัดพิมพ์เอกสาร ตัวแทน หรือผู้รับจ้างที่กระทำการแทนบริษัท ตลอดจนผู้ให้บริการออกใบกำกับภาษีทั้งในรูปแบบกระดาษและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
- ผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยี ผู้ให้บริการจัดทำโปรแกรมและระบบไอทีต่าง ๆ รวมถึงผู้ให้บริการด้านสื่อสังคมออนไลน์ (ในรูปแบบที่ปลอดภัย) หรือบริษัทโฆษณาภายนอก เพื่อแสดงข้อความให้แก่ท่าน และบุคคลอื่นใดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัท โดยบริษัทโฆษณาภายนอกอาจใช้ข้อมูลประวัติกิจกรรมออนไลน์ของท่าน เพื่อจัดสรรการโฆษณาที่ท่านอาจสนใจ
ข้อ 4. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ4.1 บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือ หรือบุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัท กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
4.2 บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่บริษัท จะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
4.3 ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย รวมถึงบริษัท จะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
ข้อ 5. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล5.1 บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ของการประมวลผล ตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ แบ่งได้ดังนี้
- กรณีที่ท่านให้ข้อมูลแก่บริษัทในฐานะที่ท่านเป็นลูกค้า ผู้รับบริการ คู่สัญญา บริษัทจะเก็บข้อมูลท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บริการแก่ท่าน และจะเก็บต่อไปอีก 10 (สิบ) ปี นับถัดจากปีที่สิ้นสุดสัญญาหรือสิ้นสุดความสัมพันธ์กับท่าน
- กรณีอื่น ๆ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ของบริษัทเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ กรณีที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี) ทั้งนี้ หากมีการดำเนินการทางศาล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกจัดเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาใด ๆ ในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ จากนั้นข้อมูลของท่านจะถูกลบหรือเก็บตามที่กฎหมายอนุญาต
5.2 เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้ว บริษัทจะดำเนินการลบ ทำลาย ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลบางอย่างไว้นานกว่าที่ระบุข้างต้น หากจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจผู้เกี่ยวข้อง และเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือโดยชอบตามกฎหมาย เช่น เพื่อความปลอดภัย เพื่อการป้องกันการละเมิดหรือการประพฤติมิชอบ หรือเพื่อการเก็บบันทึกทางการเงิน เป็นต้น
ข้อ 6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล6.1 บริษัท เคารพสิทธิส่วนบุคคลของท่าน และเปิดโอกาสให้ท่านสามารถเลือกวิธีการควบคุม หรือวิธีการที่บริษัทใช้ติดต่อท่าน โดยบริษัทจะปฏิบัติตามที่ท่านได้ร้องขอ เพื่อช่วยให้เกิดความโปร่งใส และเพื่อคุณภาพของข้อมูล และความถูกต้องของข้อมูล รวมถึงเพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา หรือกฎหมาย โดยการที่ท่านไม่ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูล อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้อย่างถูกต้อง และ/หรือ อาจทำให้มีข้อขัดข้อง ไม่สมบูรณ์ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อตกลง เงื่อนไขในสัญญาระหว่างบริษัท กับท่านได้
6.2 ท่านมีสิทธิตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้ในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
- สิทธิขอถอนความยินยอม: หากท่านได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท ทั้งนี้ บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า การเพิกถอนความยินยอมไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แล้วโดยชอบ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือโดยสภาพ ไม่สามารถถอนความยินยอมได้ หรือมีสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ หรืออาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ได้
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่าน จากการใช้บริการต่าง ๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่น หรือข้อเสนอใหม่ ๆ ไม่ได้รับบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนใช้สิทธิขอถอนความยินยอม - สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมาย หรือคำสั่งของศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
- สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผล เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือลูกค้าของบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้บริการ หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
- สิทธิขอคัดค้าน: ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป เฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
- สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อบริษัทเห็นว่าสามารถปฏิบัติตามที่ท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
- สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใด ที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทน
- สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดทั้งนี้ หากท่านประสงค์จะขอแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับภาพ บริษัทจะทำการแก้ไขเฉพาะรายการข้อมูลที่เกี่ยวกับภาพของท่านเพื่อให้ถูกต้อง ตามความจำเป็นของบริษัทที่ชอบด้วยกฎหมายและในกรณีที่การดำเนินการตามคำขอก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายบริษัทอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายดังกล่าวจากท่าน ทั้งนี้ หากท่านเห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อให้แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวนั้นได้ โดยในกรณีบริษัทมีเหตุให้ปฏิเสธคำร้องขอของท่าน บริษัทจะจัดทำบันทึกการปฏิเสธคำขอ พร้อมด้วยเหตุผลไว้เป็นหลักฐานด้วย
- สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
6.3 การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่ได้กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งบริษัทได้จัดให้มีขึ้นในเว็บไซต์ https://concura.leaseit.co.th/public/verifyEmail หรือส่งคำร้องขอได้ที่อีเมล dpo@leaseit.co.th ตามขั้นตอนของบริษัท โดยบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ดี บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านในกรณีที่มีข้อยกเว้นตามกฎหมาย หรือบริษัทจะไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ตามสัญญาได้ หรือมีผลกระทบกับการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือเป็นการปฏิเสธตามคำสั่งศาล หรือหากบริษัทดำเนินการตามคำขอของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยบริษัทจะดำเนินการบันทึกคำร้องขอ ตรวจสอบ และตอบกลับคำร้องขอของท่าน ภายในระยะเวลาอันสมควรทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินการตามที่ท่านร้องขอในอัตราที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินการตามที่ท่านร้องขอในอัตราที่บริษัทกำหนด
6.4 ในบางสถานการณ์บริษัทอาจขอให้ท่านพิสูจน์ตัวตนของท่านก่อนการใช้สิทธิเพื่อความปลอดภัยของท่านเอง โดยบางครั้งอาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการ ซึ่งบริษัทจะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้
6.5 หากเป็นกรณีกิจกรรมที่บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามฐานการปฏิบัติตามสัญญา หรือฐานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย บริษัทมีสิทธิปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านในกรณีที่ท่านใช้สิทธิโต้แย้ง หรือขอระงับการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน และขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านได้ รวมถึง บริษัทอาจปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน หากบริษัท มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลต่อไป เพื่อการกระทำการ ดังต่อไปนี้
- เพื่อทำรายการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เพื่อการจัดหาสินค้าหรือบริการตามที่ท่านร้องขอ หรือดำเนินการตามสมควรภายในขอบเขตความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างบริษัทกับท่าน หรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับท่าน
- เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ป้องกันการกลั่นแกล้ง การฉ้อฉล การฉ้อโกง หรือการกระทำผิดกฎหมาย หรือฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลที่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว
- เพื่อตรวจสอบการทำงานของบริการ และแก้ไขข้อผิดพลาดที่ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ
- เพื่อทำการศึกษาวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ เชิงประวัติ หรือเชิงสถิติโดยทั่วไป หรือโดยผู้ชำนาญการ เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยคำนึงถึงจรรยาบรรณและกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เมื่อการลบข้อมูลนั้นจะทำให้ไม่สามารถบรรลุหรือขัดขวางการบรรลุผลสำเร็จในการศึกษาวิจัยอย่างมีนัยสำคัญ
- เพื่อใช้เป็นการภายในตามสมควรโดยสอดคล้องกับความคาดหมายของท่านที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบริษัท และสอดคล้องกับบริบทที่ท่านได้ให้ข้อมูลดังกล่าวไว้แต่แรก และ
- เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ข้อบังคับ กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ข้อ 7. ช่องทางการติดต่อบริษัทหากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามการติดต่อดังนี้
ที่อยู่ : 1023 อาคารเอ็ม เอส สยาม ทาวเวอร์ ชั้น 29 ถนนพระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120
อีเมล : dpo@leaseit.co.th
หมายเลขโทรศัพท์ : 02-163-4260
ข้อ 8. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข ทบทวน และปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวที่จะมีผลบังคับใช้ ณ เวลาที่ได้เผยแพร่ต่อไปโดยมิต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการให้บริการ ดังนั้น บริษัทจึงขอแนะนำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวทุกครั้งที่เยี่ยมชม หรือใช้บริการจากบริษัท หรือเว็บไซต์ของบริษัท
ประกาศเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567